เดือนภาษาอังกฤษ และที่มาของชื่อเดือน
เดือนเป็นหนึ่งในข้อมูลพื้นฐานที่เราพบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นในห้องเรียน ในชีวิตทำงาน หรือแม้กระทั่งบนฉลากสินค้าต่าง ๆ
วันนี้ Engoo จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับชื่อเดือนภาษาอังกฤษ รวมถึงที่มาของชื่อเดือนต่าง ๆ ที่จะช่วยให้การจดจำชื่อเดือนเป็นเรื่องที่น่าสนุกยิ่งขึ้น
ชื่อเดือน (TH) | ชื่อเดือน (EN) | คำอ่าน | ตัวย่อ |
---|---|---|---|
มกราคม | January |
แจน-ยู-เอะ-รี
(ˈdʒæn.ju.er.i) |
JAN |
กุมภาพันธ์ | February |
เฟบ-บิว-เอะ-รี
(ˈfeb·juˌer·i) |
FEB |
มีนาคม | March |
มาร์ช
(mɑrtʃ) |
MAR |
เมษายน | April |
เอ-เพริล
(ˈeɪ·prəl) |
APR |
พฤษภาคม | May |
เมย์
(meɪ) |
MAY |
มิถุนายน | June |
จูน
(dʒun) |
JUN |
กรกฎาคม | July |
จู-ลาย
(dʒʊˈlɑɪ) |
JUL |
สิงหาคม | August |
ออ-เกิสท์
(ˈɔ·ɡəst) |
AUG |
กันยายน | September |
เซ็พ-เท็ม-เบอร์
(sepˈtem·bər) |
SEP |
ตุลาคม | October |
อ็อค-โท-เบอร์
(ɑkˈtoʊ·bər) |
OCT |
พฤศจิกายน | November |
โน-เว็ม-เบอร์
(noʊˈvem·bər) |
NOV |
ธันวาคม | December |
ดิ-เซ็ม-เบอร์
(dɪˈsem·bər) |
DEC |
January - มกราคม
เดือนมกราคม (January) ได้ชื่อมาจาก Janus (เจนัส) เทพแห่งการเริ่มต้นที่ดี และเทพแห่งประตูในปกรณัมโรมัน
รูปปั้นของเจนัสมีใบหน้า 2 ด้าน เพื่อให้สามารถมองไปยังอดีตและอนาคตไปได้ในเวลาเดียวกัน โดยด้านหนึ่งเป็นคนหนุ่ม และอีกด้านหนึ่งเป็นคนชรา
นอกจากนี้ วิหารของเทพเจนัสยังทอดยาวจากทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก ซึ่งอนุมานได้ถึงจุดเริ่มต้นและจุดจบของวันอีกด้วย
February - กุมภาพันธ์
เดือนกุมภาพันธ์ (February) มีที่มาจากเทศกาล Februa ในยุคโรมันโบราณ
ตามปฏิทินโรมันโบราณ 1 ปีแบ่งออกเป็น 10 เดือน เริ่มต้นที่เดือนมีนาคม และสิ้นสุดที่เดือนธันวาคม โดยเว้นเศษอีก 61 วันในช่วงกลางฤดูหนาวว่างไว้ ไม่นับว่าเป็นวันในรอบปี
เมื่อถึงช่วงเวลาใกล้ปีใหม่ หรือ ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ในปัจจุบัน เทศกาล Februa จะถูก
จัดขึ้น เพื่อชำระเมืองให้บริสุทธิ์ รวมถึงอวยพรให้ชาวเมืองมีสุขภาพที่แข็งแรง และเปี่ยมไปด้วย
ความอุดมสมบูรณ์
ดังนั้น เมื่อเศษ 61 วันที่เว้นว่างไว้ถูกแบ่งออกเป็น 2 เดือนใหม่ เดือนที่มีการเทศกาล Februa ขึ้นจึงได้ชื่อว่า Februarius และกลายเป็น February ในเวลาต่อมานั่นเอง
March - มีนาคม
เดือนมีนาคม (March) ตั้งชื่อขึ้นตาม Mars (มาร์ส) เทพเจ้าแห่งสงครามชื่อดังของโรมัน
เชื่อกันว่าชาวโรมันตั้งชื่อเดือนแรกของปีตาม มาร์ส เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่อากาศดีมากพอที่จะ
เริ่มเดินทัพได้อีกครั้งหลังผ่านฤดูหนาว ชื่อของเทพเจ้าแห่งสงครามจึงได้กลายมาเป็นของเดือนนี้ไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ ชาวโรมันยังถือว่า มาร์ส เป็นพระบิดาแห่งโรม เนื่องจากเป็นพ่อของโรมุลุส ผู้ก่อตั้งโรม และเรมุสคู่แฝดของเขาอีกด้วย
April - เมษายน
เดือนเมษายน (April) มีที่มาจากคำว่า Aperire ในภาษาละติน ซึ่งเป็นคำกริยาแปลว่า “เปิด” อันสื่อถึงการผลิบานของดอกไม้และต้นไม้ที่สามารถพบเห็นได้ตลอดเดือน
อีกแนวคิดหนึ่งเชื่อว่าที่มาของชื่อเดือนนี้คือ Aphrilis ซึ่งได้มาจากชื่อของเทพีกรีก อะโฟรไดทิ (วีนัส) เทพีแห่งความรักและความงาม
May - พฤษภาคม
เดือนพฤษภาคม (May) ได้ชื่อมาจาก Maia (ไมอา)
โดยที่มาของชื่อนี้มาการเล่าขานอยู่ 2 รูปแบบ คือ 1. ไมอา มารดาของเทพเฮอร์เมส ในปกรณัมกรีก และ 2. ไมอา เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ของชาวโรมันโบราณ
ปกรณัมกรีกไม่ได้กล่าวถึงบทบาทของไมอามากนัก จึงมีความเป็นไปได้ว่าชื่อของเดือนพฤษภาคมนั้น
มีที่มาจาก ไมอา เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของพืชพรรณในช่วงเวลา
ดังกล่าว
June - มิถุนายน
เดือนมิถุนายน (June) มีที่มาจาก Juno (จูโน) ราชินีแห่งทวยเทพ
จูโน ได้ชื่อว่าเป็นเทพีผู้อุปถัมภ์การแต่งงาน การครองเรือน และการคลอดบุตร
ในสมัยโรมันโบราณ ผู้คนมักจะจัดงานแต่งงานขึ้นในเดือนมิถุนายน ด้วยเชื่อว่าเป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ของเทพีผู้อุปถัมภ์การแต่งงาน
July - กรกฎาคม
เดือนกรกฎาคม (July) ได้ชื่อมาจาก Julius Caesar (จูเลียส ซีซาร์) รัฐบุรุษแห่งโรมัน
นอกจากจะเป็นรัฐบุรุษแห่งโรมันแล้ว จูเลียส ซีซาร์ยังมีความสำคัญในฐานะที่เป็นผู้ริเริ่มใช้ปฏิทิน
จูเลียน อันเป็นต้นแบบของปฏิทินเกรกอเรียนหรือปฏิทินสากลที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันด้วย
เดิมทีเดือนนี้เป็นเดือนที่ 5 ของปีตามปฏิทินโรมันโบราณ มีชื่อว่า Quintilis และเป็นเดือนเกิดของ
จูเลียส ซีซาร์ ในภายหลังจึงได้ชื่อตามรัฐบุรุษผู้นี้เพื่อเป็นเกียรติแก่เขานั่นเอง
August - สิงหาคม
เดือนสิงหาคม (August) มีที่มาจาก Augustus (ออกัสตัส) ปฐมจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมัน
August เป็นชื่อเดือนภาษาอังกฤษอีกหนึ่งเดือนที่มีความสัมพันธ์กับบุคคลในประวัติศาสตร์ โดยเดิมมีชื่อว่า Sextilis หรือเดือนที่ 6 ของปีตามปฏิทินโรมันโบราณ และต่อมาก็ได้รับการเปลี่ยนชื่อเพื่อ
เป็นเกียรติ์แก่ ออกัสตัส ซีซาร์ เนื่องจากเป็นเดือนที่ออกัสตัสชนะศึกใหญ่หลาย ๆ ครั้ง
สำหรับ 4 เดือนสุดท้ายของปี (กันยายน - ธันวาคม) ชื่อเดือนเหล่านี้มีรากมาจากหมายเลขในภาษาละติน และยังคงรักษาชื่อเดิมตามปฏิทินโรมันโบราณไว้จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น เมื่อแปลความหมาย
ออกมาแล้ว ชื่อของเดือนจะไม่ตรงกับลำดับของเดือนที่เราทราบกันในปัจจุบัน
September - กันยายน
เดือนกันยายน (September) มาจากรากศัพท์ภาษาละตินว่า septem ที่หมายถึงเลข 7
โดยเดือนนี้มีชื่อเดิมว่า Mensis September แปลว่า เดือนที่ 7 (ตามปฏิทินโรมันโบราณ)
October - ตุลาคม
เดือนตุลาคม (October) มาจากรากศัพท์ภาษาละตินว่า octō ที่หมายถึงเลข 8
โดยเดือนนี้มีชื่อเดิมว่า Mensis October แปลว่า เดือนที่ 8 (ตามปฏิทินโรมันโบราณ)
November - พฤศจิกายน
เดือนพฤศจิกายน (November) มาจากรากศัพท์ภาษาละตินว่า novem ที่หมายถึงเลข 9
โดยเดือนนี้มีชื่อเดิมว่า Mensis November แปลว่า เดือนที่ 9 (ตามปฏิทินโรมันโบราณ)
December - ธันวาคม
เดือนธันวาคม (December) มาจากรากศัพท์ภาษาละตินว่า decem ที่หมายถึงเลข 10
โดยเดือนนี้มีชื่อเดิมว่า Mensis December แปลว่า เดือนที่ 10 (ตามปฏิทินโรมันโบราณ)
เป็นอย่างไรบ้างกับเกร็ดความรู้ที่ Engoo นำมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันในวันนี้ หวังว่าบทความนี้
จะทำให้ทุกคนรู้สึกสนุกสนานไปกับการเรียนรู้และจดจำชื่อเดือนภาษาอังกฤษได้ง่ายยิ่งขึ้น
สำหรับบทความหน้าเราจะยกเรื่องอะไรขึ้นมาเล่า ติดตามได้ทาง Engoo Blog เลย!