
7 สำนวนภาษาอังกฤษที่บอกถึงงานหนักจนแทบขิต

แน่นอนว่า Work-Life Balance เป็นชีวิตในฝันที่คนจำนวนมากโหยหา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า
Work ไร้ Balance ก็เป็นสิ่งที่บรรดาคนทำงานทั้งหลายอาจต้องประสบอยู่เป็นช่วง ๆ (หรือเป็นประจำ)
ในเวลาที่ไฟเนื้อย่างอาจไม่ร้อนเท่าไฟเดดไลน์ และภูกระดึงก็อาจสูงไม่เท่าภูเขากองงานของเรา
เราจะอธิบายสถานการณ์งานท่วมหัวอย่างไรให้เห็นภาพได้มากกว่า “I’m very busy.” หรือ
“I got a lot of work.”
วันนี้ Engoo จะพาคุณมาดูตัวอย่างสำนวนภาษาอังกฤษที่สามารถนำมาใช้ในสถานการณ์ที่งานยุ่ง
จนแทบจะกระดิกตัวไม่ได้กัน

1. Be snowed under (with something)
Be snowed under (with something) เป็นสำนวนหนึ่งที่มีความหมายว่า มีงานล้นมือจนยาก
ที่จะจัดการ โดยเปรียบงานกับหิมะที่ตกลงมาทับถมบ้านเรือนจนขาวโพลน
ตัวอย่าง
I have been snowed under with a number of huge projects for more than a month.
ฉันจมอยู่กับโปรเจคใหญ่ ๆ จำนวนมากมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว

2. Burn the candle at both ends
Burn the candle at both ends แปลได้ตรงตัวว่า จุดเทียนที่ปลายทั้งสองด้าน โดยเป็นสำนวนหมายถึง ทำบางสิ่งจนหามรุ่งหามค่ำ ซึ่งแหล่งที่มาบางแห่งกล่าวว่าสำนวนนี้มีที่มาจากการจุดเทียน
ที่ปลายทั้งสองข้าง ซึ่งทำให้เทียนหมดเร็วขึ้นเป็นสองเท่า เปรียบได้กับการทำงานเช้าจรดค่ำที่ผลาญพลังชีวิตจนอ่อนล้า
สำนวนนี้สามารถนำมาใช้ได้ทั้งกับการทำงานอย่างหนักหรือการทำกิจกรรมอื่น ๆ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
โดยแทบจะไม่มีเวลาพัก
ตัวอย่าง
The accounting team has burned the candle at both ends throughout the annual closing period.
ทีมบัญชีทำงานหามรุ่งหามค่ำตลอดช่วงปิดบัญชีประจำปี

3. Burn the midnight oil
Burn the midnight oil มีความหมายว่า อยู่ทำงานจนดึก แล้วทำไมการเผาน้ำมันยามค่ำคืน
จึงนำมาใช้บอกเล่าถึงการทำงานจนดึกกันล่ะ
สิ่งนี้เป็นเพราะว่าในยุคที่ยังไม่มีการใช้ไฟฟ้า ผู้คนต้องอาศัยแสงสว่างจากตะเกียงอันในการทำงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ยามค่ำคืน ดังนั้น เมื่อทำงานจนดึกดื่นเที่ยงคืน น้ำมันในตะเกียงจะถูกเผาไหม้เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการให้แสงสว่าง
ด้วยเหตุนี้สำนวนดังกล่าวจึงมีความหมายตามที่มันถูกใช้อยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
ตัวอย่าง
Daisy had to burn the midnight oil to finish her report on time.
เดซีอยู่ทำงานจนดึกเพื่อให้รายงานเสร็จทันกำหนด

4. Have a lot on one’s plate
Have a lot on one’s plate ทำให้นึกถึงภาพอาหารที่กองจนพูนจาน เสมือนภาระงานอันล้นหลามจนเจ้าของงานแทบจะรับผิดชอบไม่ไหว โดยแปลเป็นไทยได้ว่า มีหลายสิ่ง (งาน/ความรับผิดชอบ) ให้ต้องจัดการ
ตัวอย่าง
Lilah and I barely talk these days since she has a lot on her plate after being promoted.
เดี๋ยวนี้ฉันกับไลลาห์ไม่ค่อยคุยกันเท่าไหร่ เพราะเธอมีงานมากมายให้รับผิดชอบหลังจากได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
นอกจากนี้เรายังสามารถพูดได้อีกว่า Have (more than) enough on one’s plate หรือ มีเรื่อง
ให้ต้องจัดการ/รับผิดชอบมากจนเกินพอ
ตัวอย่าง
We cannot assign Thomas to the new project, he has more than enough on his plate.
เราไม่สามารถมอบหมายโปรเจคใหม่ให้โทมัสได้ เขามีงานที่ต้องรับผิดชอบมากจนเกินพอแล้ว

5. Keep one’s nose to the grindstone
Keep one’s nose to the grindstone เป็นสำนวนที่มีความหมายว่า ทำงานหนักอย่างจดจ่อ
ไม่วอกแวกเป็นเวลายาวนาน
ที่มาของสำนวนนี้ไม่แน่ชัดและยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ โดยมีการคาดเดาว่าสำนวนนี้มาจาก
บทลงโทษในยุคโบราณหรือการทำงานของช่างลับมีดที่ต้องก้มหน้าทำงานจนจมูกแทบจะแนบกับ
หินลับมีด
ตัวอย่าง
My mom has kept her nose to the grindstone to feed her family since she was 18.
แม่ของฉันก็ทำงานหนักมาอย่างยาวนานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่อายุได้ 18 ปี

6. Work like a dog
Work like a dog ที่แปลตรงตัวว่า ทำงานเหมือนหมา นั้นเป็นอีกสำนวนที่มีความหมายว่า ทำงานหนัก
หลายคนคงคิดว่า “อ้าว แต่ไอ้โบ้ที่บ้านฉันมันนอนทั้งวันเลยนะ แถมกระดิกหางให้ขโมยอีกต่างหาก
มันทำงานหนักตรงไหนกัน”
จริง ๆ แล้วสำนวนนี้มีที่มาจากสุนัขที่เลี้ยงไว้ใช้งาน เช่น สุนัขควบคุมฝูงปศุสัตว์ ที่ต้องทำงานอย่างหนักตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จึงทำให้ได้ความหมายดังกล่าวมานั่นเอง
ตัวอย่าง
Julie was scolded for being lazy even though she has always worked like a dog.
จูเลียถูกต่อว่าว่าเป็นคนขี้เกียจ ถึงแม้ว่าเธอจะทำงานหนักอยู่เสมอก็ตาม

7. Work one’s fingers to the bone
Work one’s fingers to the bone เป็นสำนวนสุดท้ายที่เราจะนำเสนอในวันนี้ มีความหมายว่า ทำงานหนักอย่างมากจนสายตัวแทบขาดเลยทีเดียว
ที่มาของสำนวนนี้ไม่แน่ชัด บ้างก็ว่ามาจากในอดีตแรงงานต้องทำงานหนักมากเสียจะมือลอกจนเห็นกระดูกจริง ๆ ในขณะที่บางส่วนบอกว่าเป็นเพียงอธิพจน์หรือการกล่าวเกินจริงให้ได้อรรถรสเท่านั้น
ตัวอย่าง
Many people work their fingers to the bone just to afford the basic amenities of life.
ผู้คนจำนวนมากทำงานหนักจนสายตัวแทบขาดเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัยพื้นฐานในการใช้ชีวิต
ทั้งหมดนี้คือ 7 สำนวนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการทำงานที่ Engoo ยกขึ้นมาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักและนำไปลองใช้เพื่ออธิบายถึงความหนักหน่วงของงานได้อย่างเห็นภาพมากขึ้น
คราวหน้า Engoo จะพาทุกคนไปพบกับเกร็ดดี ๆ ในการฝึกภาษาอังกฤษเรื่องอะไรต่อไป
สามารถติดตามได้ทาง Engoo บล็อก