เรียนภาษาอังกฤษ ภายใน 1 เดือน เป็นไปได้หรือไม่
เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าเราต้องใช้เวลา เรียนภาษาอังกฤษ นานเท่าไหร่ถึงจะใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นไปได้ไหมที่เราจะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเก่งกาจภายในเวลา 1 เดือน หรือพูด
ภาษาอังกฤษได้คล่องก่อนจะถึงทริปท่องเที่ยวต่างประเทศ
การศึกษาวิจัยและประสบการณ์สามารถช่วยไขข้อข้องใจให้เราในเรื่องนี้ได้
ข้อมูลจากการศึกษาวิจัย
รายงานประจำปี 2018 โดย Cambridge University Press (สำนักพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์) คาดการณ์ว่าผู้เรียนในวัยผู้ใหญ่ที่มีแรงจูงใจในการเรียนภาษา รู้ตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่ก่อนแล้ว รวมถึงมีอาจารย์และสื่อสารเรียนรู้ที่เหมาะสม…
…จำเป็นต้องใช้เวลาเรียนรู้ผ่านการแนะนำของผู้สอนประมาณ 100 ถึง 200 ชั่วโมง ในการเลื่อนระดับ CEFR (มาตรวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษสากล) ขึ้น 1 ระดับ และเมื่ออยู่ในระดับสูงที่ขึ้น จำนวนชั่วโมงที่ผู้เรียนต้องใช้
ในการพัฒนาความสามารถไปสู่อีกระดับก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย
“การเรียนรู้ผ่านการแนะนำของผู้สอน” หมายถึง การเรียนรู้ในห้องเรียนและการทำการบ้าน โดยผู้จัดทำรายงานได้คาดการณ์จำนวนชั่วโมงการเรียนรู้ผ่านการแนะนำของผู้สอนที่จำเป็นต่อการพัฒนาทักษะสู่ระดับถัดไปไว้ดังนี้
ดังนั้น คำตอบของคำถามที่ว่า “ฉันจะสามารถเรียนภาษาอังกฤษจนคล่องแคล่วภายใน 1 เดือนได้หรือไม่” จึงขึ้นอยู่ระดับความสามารถที่คุณต้องการบรรลุเสียส่วนใหญ่
ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ความสามารถทางภาษาอังกฤษของคุณ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ A1
- หากคุณต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเอาตัวรอด (ประมาณระดับ A2) ภายในเวลา 1 เดือน
คุณจะต้อง เรียนภาษาอังกฤษ แบบเต็มเวลา โดยเข้าคอร์สเรียนภาษาและฝึกฝนผ่านการทำการบ้านอย่างสม่ำเสมอ - หากคุณต้องการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว (ประมาณระดับ B2) ภายใน 1 เดือน กรณีเช่นนี้ย่อมเป็นไปได้ยาก (หรืออาจเป็นไปไม่ได้) เพราะคุณจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ในการเข้าชั้นเรียนภาษาและฝึกฝนผ่านการทำการบ้านโดยไม่สามารถหยุดพักได้เลยแม้แต่น้อย
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรพิจารณา
สิ่งแวดล้อมในการเรียนรู้
ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาด้วยตัวเอง เรียนภาษาจากโรงเรียน เรียนภาษาขณะอาศัยอยู่ในประเทศบ้านเกิด หรือเดินทางไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อเรียนภาษา ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีอิทธิพลอย่างมากต่อความรวดเร็วในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของผู้เรียน
วิธีการสอน
หากเรียนภาษาจากครูผู้สอน วิธีการสอนนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความรวดเร็วในการพัฒนาทักษะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่ครูผู้สอนให้ความสำคัญ (เช่น ไวยากรณ์และความแม่นยำของหลักภาษา หรือ ทักษะในการสื่อสารและความคล่องแคล่วในการใช้งาน) รวมถึงความใส่ใจที่ครูผู้สอนมีต่อผู้เรียน (เช่น การสร้างจูงใจกับให้ผู้เรียน และ การตอบคำถามของผู้เรียน)
ความเข้มข้นในการเรียน
ความเข้มข้นในการเรียน หมายถึง ความถี่ในการเรียน ความทุ่มเทในการศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเอง และความขยันขันแข็งในการทบทวนบทเรียน
การ เรียนภาษาอังกฤษ เป็นครั้งคราวอาจช่วยพัฒนาทักษะในการใช้ภาษาได้ไม่มากนัก แต่คุณก็ไม่ควรฝืนเรียนหนักจนเกินไปเช่นกัน
ทัศนคติที่มีต่อภาษาอังกฤษ
เมื่อคุณคิดว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อชีวิต คุณจะเกิดแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การรู้จักหรือติดตามผู้ที่เชี่ยวชาญในการใช้ภาษาอังกฤษ (ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในสื่อหรือคนใกล้ตัว) ยังมีส่วนช่วยให้คุณเกิดทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษาด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่เคยประสบกับความยากลำบากในการเรียนภาษาอังกฤษหรือขาดแบบอย่างในการเรียนภาษาอาจเรียนรู้ภาษาได้ยากกว่าผู้ที่มีทัศนคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษ
ภาษาแรก
ภาษาบางกลุ่มก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน หากภาษาแรกหรือภาษาแม่ของคุณมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับภาษาอังกฤษ เช่น ภาษาสเปน หรือ ภาษาโปรตุเกส คุณก็จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้เร็วกว่าผู้ที่ภาษาแม่มีความแตกต่างไปจากภาษาอังกฤษอย่างมาก เช่น ภาษารัสเซีย ภาษาจีน หรือ ภาษาไทย โดยปัจจัยนี้จะมีอิทธิพลมากเป็นพิเศษในผู้เรียนภาษาระดับเริ่มต้น
บุคลิกภาพ
หากคุณเขินอายเกินกว่าจะสื่อสารกับเจ้าของภาษา หรือเป็นกังวลเมื่อต้องใช้ภาษาอังกฤษ คุณก็อาจต้องใช้เวลาในการฝึกฝนภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่วนานกว่าคนที่กล้าพูดกล้าใช้ภาษาอังกฤษ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะทุกคนย่อมมีหนทางในการเรียนรู้ที่เหมาะกับตนเอง
สรุป
Engoo หวังว่าบทความในสัปดาห์นี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพได้ชัดมากขึ้นว่าคุณต้องใช้เวลานานเพียงใดจึงจะพัฒนาความสามารถทางภาษาอังกฤษจนถึงระดับที่ต้องการได้ อย่าลืมว่ากำหนดเวลาในการเรียนนั้นไม่มีสูตรคำนวณที่ชัดเจนและตายตัว ความรวดเร็วในการพัฒนาทักษะด้านภาษานั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมาย พื้นฐาน แรงจูงใจ และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย
ดังนั้น ในการเรียนภาษาอังกฤษ เราจึงไม่ควรยึดติดกับเรื่องตัวเลข แต่ควรใส่ใจถึงวิธีการเรียนที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด และหนึ่งวิธีที่ Engoo อยากแนะนำให้คุณลองก็คือการเรียนภาษากับครูผู้สอน ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม คำอธิบายเพิ่มเติมในประเด็นที่เข้าใจได้ยาก รวมถึงแรงจูงใจและกำลังใจจากผู้สอนที่จะทำให้เส้นทางในการเรียนภาษาของคุณไม่โดดเดี่ยว
Engoo มีครูผู้สอนจากหลายประเทศทั่วโลกให้คุณเลือกได้ตามความต้องการ รวมถึงบทเรียนที่หลากหลาย ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของคุณในทุก ๆ ด้าน เช่น บทเรียนจากข่าวและเหตุการณ์ปัจจุบัน บทเรียนไวยากรณ์ บทเรียนภาษาเพื่อธุรกิจ และอื่น ๆ อีกมากมาย
หากสนใจ อย่าลืมเข้าไปสำรวจเนื้อหาต่าง ๆ บนเว็บไซต์ Engoo หรือ แอดไลน์ @EngooThailand เพื่อรับสิทธิ์ทดลองเรียนฟรี!