Engoo บล็อก เรียนภาษาอังกฤษ

หลักการใช้ If Clauses แบบจำง่าย ใช้ได้จริง

หลักการใช้ If Clauses แบบจำง่าย ใช้ได้จริง

สารบัญ

ทุกคนคงพอจะเคยเห็นหรือใช้งานประโยค If Clauses หรือที่บางคนเรียกกันว่า Conditional Sentences ซึ่งเป็นประโยคเงื่อนไขที่แสดงความสัมพันธ์กันของสาเหตุและผลลัพธ์กันมาบ้างแล้ว

แต่ด้วยโครงสร้างและหลักการใช้ที่ซับซ้อนกว่าภาษาไทยไปมากโข คุณอาจคิดว่า “เอ๊ะ ทำไมมันมีหลายแบบ แล้วจะแยกใช้ยังไงล่ะ”

วันนี้ Engoo จะจับหลักการใช้ If Clauses ทั้ง 4 แบบออกมาให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจกันแบบง่าย ๆ และสามารถนำไปใช้ได้แบบไม่ต้องสับสนกันอีกต่อไป

โครงสร้างของ Conditional Sentences

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโครงสร้างของ Conditional Sentences (ประโยคเงื่อนไข) กันก่อน

ประโยคเงื่อนไขประกอบด้วยโครงสร้าง 2 ส่วน ได้แก่

  1. If Clause (ส่วนที่พูดถึงเงื่อนไขหรือสาเหตุ)
  2. Main Clause (ส่วนที่กล่าวถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากเงื่อนไขหรือสาเหตุดังกล่าว)

โดยโครงสร้างทั้ง 2 ส่วนนี้สามารถสลับตำแหน่งกันได้

เช่น

If Tina studies hard, she will pass the exam.
ถ้าทีน่าอ่านหนังสืออย่างหนัก เธอจะสอบผ่าน

Tina will pass the exam if she studies hard.
ทีน่าจะสอบผ่าน ถ้าเธออ่านหนังสืออย่างหนัก

ถ้าพอเข้าใจโครงสร้างแล้ว เรามาดูหลักการใช้ If Clause แต่ละแบบกันเลย

1. Zero Conditional Sentences (Type 0)

Structure of zero conditional sentences

ใน Type 0 นี้ เราสามารถแทนที่ If ด้วย When ได้เมื่อความหมายของประโยคไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง

หลักการใช้งาน

ใช้เมื่อพูดถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ เช่น กฎทางธรรมชาติ และ หลักทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงพฤติกรรมทั่วไปที่ทำจนเป็นปกติ

ตัวอย่าง 

  • If the sun sets, the sky turns dark.
    หากพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้าจะมืด
  • Water boils when you heat it to 100 degrees Celsius.
    น้ำจะเดือด เมื่อคุณต้มน้ำจนมีอุณหภูมิถึง 100 องศาเซลเซียส
  • He usually goes for a walk if he finishes work early.
    เขามักจะออกไปเดินเล่น หากเขาทำงานเสร็จเร็ว
  • When I cry a lot, I always get thirsty.
    เวลาที่ฉันร้องไห้หนัก ๆ ฉันมักจะกระหายน้ำ

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ If Clause Type 0 ในการออกคำสั่งได้ด้วย

ตัวอย่าง

  • Notify your supervisor when you find anything suspicious.
    แจ้งให้หัวหน้างานของคุณทราบเมื่อพบสิ่งใด ๆ ที่น่าสงสัย
  • If the phone rings, answer it immediately.
    หากโทรศัพท์ดัง ให้รับสายทันที

2. First Conditional Sentences (Type 1)

Structure of first conditional sentences

หลักการใช้งาน

ใช้เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เฉพาะเจาะจงและอาจเกิดขึ้นได้จริง

ตัวอย่าง

  • If Tony doesn’t leave now, he will miss his flight.
    หากโทนี่ไม่ออกเดินทางตอนนี้ เขาจะตกเครื่อง
  • The project will be submitted on time if everything goes as planned.
    โปรเจคนี้จะส่งได้ตามกำหนด หากทุกสิ่งเป็นไปตามที่วางแผนไว้

นอกจากนี้ ใน Type 1 คุณยังสามารถใช้ Modal Verb อื่น ๆ (เช่น shall, should, would, can, could, may, และ might) แทน will ได้ เพื่อบ่งบอกถึงการให้ข้อแนะนำหรือเน้นระดับความแน่นอนของผลที่จะเกิดขึ้น

ตัวอย่าง

  • If we don’t leave now, we might miss the train.
    หากพวกเราไม่ออกเดินทางตอนนี้ พวกเราอาจตกรถไฟ
  • If your symptoms get worse, you should see the doctor.
    หากอาการของคุณแย่ลง คุณก็ควรจะไปพบแพทย์
  • A cake can be overcooked if the oven is left unattended.
    เค้กอาจไหม้ได้ หากปล่อยเตาอบทิ้งไว้โดยไม่มีคนดู
  • Diana could get sick if she keeps overworking herself.
    ไดอาน่าอาจป่วยได้ หากเธอยังทำหนักเกินควรอยู่อย่างนี้

3. Second Conditional Sentences (Type 2)

Structure of second conditional sentences

หลักการใช้งาน

ใช้เมื่อพูดถึงเหตุการณ์สมมติ หรือ เรื่องเพ้อฝัน ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง

ตัวอย่าง

  • If I were a billionaire, I would stay at home doing nothing.
    ถ้าหากฉันเป็นเศรษฐีพันล้าน ฉันจะอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลย
    (ฉันไม่ได้เป็นเศรษฐีพันล้าน จึงอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้)

  • Alex would travel abroad frequently if he could speak English fluently.
    อเล็กซ์คงจะเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ ถ้าหากเขาพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง
    (อเล็กซ์พูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง จึงไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ)

  • Allan would enjoy extreme sports if he were in his 20s.
    อลันคงจะสนุกไปกับการเล่นกีฬาผาดโผน ถ้าหากตอนนี้เขาอยู่ในวัย 20
    (อลันไม่ได้อยู่ในวัย 20 จึงไม่สนุกไปกับการเล่นกีฬาผาดโผน)

  • If Lily won the lottery, she would travel the world.
    ถ้าหากลิลี่ถูกสลากกินแบ่ง เธอคงจะไปเที่ยวรอบโลก
    (ลิลี่ไม่ถูกสลากกินแบ่ง เธอจึงไม่ได้เที่ยวรอบโลก)

  • If the weather were good, we would be swimming at the beach now.
    ถ้าหากอากาศดี ตอนนี้พวกเขาคงกำลังว่ายน้ำอยู่ที่ชายหาด
    (อากาศไม่ได้ดี ตอนนี้กลุ่มของผู้พูดจึงไม่ได้ออกไปว่ายน้ำ)

  • Jimmy would be having fun at the club if he had no exam tomorrow.
    จิมมี่คงกำลังสนุกสนานอยู่ในผับ ถ้าหากพรุ่งนี้เขาไม่ได้มีสอบ
    (จิมมี่มีสอบในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้เขาจึงไม่ได้ออกไปสนุกที่ผับ)

4. Third Conditional Sentences (Type 3)

Structure of third conditional sentences

หลักการใช้งาน

ใช้เมื่อพูดถึงเหตุการณ์สมมติว่าหากในอดีตเลือกทางเลือกที่ต่างออกไป ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร

ตัวอย่าง

  • If I had practiced harder, I could have won that competition.
    ถ้าหากฉันซ้อมให้หนัก ฉันก็คงจะชนะการแข่งขันไปแล้ว
    (ผู้พูดไม่ได้ซ้อมหนัก จึงไม่ชนะการแข่งขัน)

  • If Tony had left earlier, he would have caught the train.
    ถ้าหากโทนี่ออกเดินทางให้เร็วกว่านี้ เขาก็คงจะขึ้นรถไฟทันไปแล้ว
    (โทนี่ออกเดินทางช้า เขาจึงตกรถไฟ)

  • If Mike had attended the party, I would have introduced him to you.
    ถ้าหากไมค์มางานปาร์ตี้ ฉันก็คงจะแนะนำเขาให้คุณรู้จักไปแล้ว
    (ไมค์ไม่ได้มางานปาร์ตี้ ผู้พูดจึงไม่ได้แนะนำให้ผู้ฟังรู้จัก)

  • Lily would have bought a new house if she hadn’t left her job.
    ลิลี่คงจะซื้อบ้านไปแล้ว ถ้าหากเธอไม่ได้ลาออกจากงาน
    (ลิลี่ลาออกจากงาน เธอจึงไม่ได้ซื้อบ้าน)

  • You wouldn’t have failed the exam if you had checked the schedule and attended on time.
    คุณคงจะไม่สอบตก ถ้าหากคุณตรวจดูตารางสอบและเข้าสอบทันเวลา
    (ผู้ฟังไม่ได้ตรวจดูตารางสอบจึงไปสอบสาย ทำให้สอบตก)

  • I would have made your favourite drink if I had known you were coming.
    ฉันคงจะทำเครื่องดื่มโปรดของคุณเอาไว้ ถ้าหากฉันรู้ว่าคุณจะมาหา
    (ผู้พูดไม่รู้ว่าผู้ฟังจะมาหา จึงไม่ได้เตรียมเครื่องดื่มโปรดของผู้ฟังเอาไว้)

หวังว่าหลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ คุณใช้ If Clauses ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น และรู้สึกว่า "มันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดนี่" 

และถ้าหากคุณยังมีคำถามหรืออยากฝึกฝนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ If Clauses หรือประเด็น Grammar อื่น ๆ Engoo ก็มีบทเรียน Grammar กว่า 100 บท ให้ทุกคนได้เลือกเรียนบทเรียนที่ใช่กับคุณครูที่ชอบ

เพียงแค่แอดไลน์ @EngooThailand คุณก็สามารถรับสิทธิ์ทดลองเรียนฟรีทันที

สำหรับครั้งหน้า เราจะยกประเด็นอะไรที่จะช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษของคุณง่ายดายยิ่งขึ้นมานำเสนอ สามารถติดตามได้ที่ Engoo Blog!