หากต้องการ เลื่อนนัด ควรบอกเป็น ภาษาอังกฤษ อย่างไร
แน่นอนว่าการไปตามนัดตรงต่อเวลาอยู่เสมอนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งเราก็อาจโชคร้ายประสบกับเรื่องที่ไม่คาดคิดจนทำให้ไม่สะดวกไปตามนัดในเวลาเดิม
เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญก็คือเราต้องรู้ว่าควรเจรจาอย่างไรจึงจะปรับเปลี่ยนนัดหมายไปยังช่วงเวลาที่เราสะดวกได้อย่างราบรื่น ในบทความนี้ Engoo จะแนะนำรูปประโยคที่คุณสามารถนำไปใช้ในการสื่อสารเพื่อ เลื่อนนัด ผ่านอีเมล ข้อความ และโทรศัพท์
เปลี่ยนแปลงนัดหมาย หรือ เลื่อนนัด
การ เลื่อนนัด ต่าง ๆ มักจะมีขั้นตอนพื้นฐาน ดังนี้:
- ขออภัยที่ไม่สามารถไปตามนัดในเวลาเดิมได้
- บอกเหตุผลว่าเหตุใดจึงจำเป็นต้อง เลื่อนนัด
- เสนอเวลานัดใหม่
ในส่วนแรกคุณสามารถใช้ประโยคขอโทษทั่ว ๆ ไป เช่น
“I’m (really) sorry, but ~”
ฉันขอโทษจริง ๆ แต่ว่า…
“Unfortunately ~.”
น่าเสียดายที่…
หลังจากขอโทษแล้ว จึงใช้วลีใดวลีหนึ่งต่อไปนี้
Push back
วลีนี้ใช้เมื่อต้องการ เลื่อนนัด ออกไปในช่วงเวลาอื่นที่ไกลกว่าเวลานัดเดิม โดยสามารถบอกเวลา
อย่างเจาะจงเป็นชั่วโมงหรือบอกกว้าง ๆ เป็นวันก็ได้
เมื่อนำไปใช้ในประโยค สามารถพูดว่า “push back a meeting” หรือ “push a meeting back” ก็ได้
ตัวอย่าง
- I’m sorry, but my train is late. Can we push the meeting back to 3 p.m.?
ขอโทษนะ รถไฟที่ฉันนั่งล่าช้า เราเลื่อนนัดออกไปเป็นบ่าย 3 โมงได้ไหม - Sue called to say she has to push back the lunch meeting to 12:30.
ซูโทรมาบอกว่าเธอต้องเลื่อนนัดทานอาหารกลางวันออกไปเป็น 12.30 น.
Bring forward
วลีนี้มีความหมายตรงข้ามกับ “push back”
หากเวลานัดหมายเดิมช้าเกินไป ก็สามารถใช้วลี “bring forward” เพื่อเลื่อนเข้ามาให้เร็วขึ้นได้
ตัวอย่าง
- My son’s music lesson starts at 5 instead of 6. Can we bring our meeting forward an hour?
คลาสเรียนดนตรีของลูกชายฉันจะเลื่อนจาก 6 โมงเป็น 5 โมง เราขยับประชุมให้เร็วขึ้นมาชั่วโมงหนึ่งได้ไหม
- The announcement said the seminar will be brought forward to 2 p.m.
ประกาศบอกว่าการสัมมนาจะเลื่อนเข้ามาเป็นบ่าย 2 โมงแทน
นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ 2 วลีนี้ในการพูดถึงกำหนดส่งงานได้อีกด้วย
- The team is moving so quickly that we've brought our delivery date forward by two months.
ทีมทำงานเร็วมากจนเราต้องเลื่อนกำหนดส่งงานให้เร็วขึ้น 2 เดือน - Delays with our supplier mean we need to push back our target dates.
ความล่าช้าของซัพพลายเออร์ทำให้เราจำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการออกไป
Postpone
"Postpone" เป็นคำกริยาที่มีความหมายว่า “เลื่อนเวลาออกไป” โดยกิจกรรมต่าง ๆ นั้นอาจถูกเลื่อนออกไปจากการตัดสินใจของบุคคลหนึ่ง ๆ หรือจากสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้
- I'm sorry, everyone, but we'll need to postpone the company party until the boss has recovered from his injury.
ขอโทษด้วยนะทุกคน แต่เราต้องเลื่อนปาร์ตี้บริษัทออกไปจนกว่านายจะหายจากอาการบาดเจ็บ - My flight was postponed due to the snow storm. Can we move our meeting to tomorrow afternoon?
เที่ยวบินของฉันถูกเลื่อนเนื่องจากพายุหิมะ เราเลื่อนนัดประชุมเป็นพรุ่งนี้ตอนบ่ายได้ไหม
Reschedule
คุณสามารถใช้คำง่าย ๆ อย่าง “reschedule” ในการขอเปลี่ยนเวลานัด เมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนและปรับเวลานัด
- Unfortunately, my assistant made a mistake on my calendar and I can’t meet at our original time, so we’ll need to reschedule. Are you available on Thursday between 2 and 4?
น่าเสียดายที่ผู้ช่วยของฉันบันทึกกำหนดการของฉันผิด ฉันจึงไม่สามารถไปตามเวลานัดเดิมได้ เราจำเป็นต้องกำหนดเวลานัดใหม่ คุณพอจะว่างช่วงบ่าย 2 โมง ถึง 4 โมงของวันพฤหัสบดีไหม
“Something’s come up”
คุณสามารถใช้วลีนี้ในการบอกว่าคุณมีงานหรือธุระสำคัญเข้ามา ทำให้ต้องเปลี่ยนกำหนดการเดิม
อย่างกะทันหัน โดยไม่จำเป็นบอกรายละเอียดเพิ่มเติม
"Come up" หมายถึง “ปรากฏขึ้นโดยกะทันหัน” โดยวลีนี้มักจะใช้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ขณะที่กำหนดการเดิมกระชั้นเข้ามาแล้ว
- I apologize, but something's come up and I won't be able to attend the event tonight. I hope you'll invite me to the next one.
ขอโทษนะ แต่มีงานเข้ามากะทันหัน ฉันคงไปงานคืนนี้ไม่ได้แล้ว หวังว่าคุณจะยังเชิญฉันไปร่วมงานในครั้งหน้านะ - I'm really sorry, but something important came up that I need to deal with immediately. Are you available to meet next week instead?
ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ แต่ฉันมีธุระสำคัญที่ต้องรีบจัดการด่วน คุณสะดวกเลื่อนนัดเป็นสัปดาห์หน้าไหม
Move things around
วลีนี้มักใช้ในการตอบกลับการร้องขอปรับเปลี่ยนเวลานัด โดยมีความหมายว่า “จัดระเบียบกำหนดการต่าง ๆ เสียใหม่” เช่น เมื่อคุณเลื่อนประชุมจากช่วงเช้าไปเป็นช่วงเที่ยง คุณก็อาจจะต้องยกเลิกหรือเลื่อนกำหนดการอื่น ๆ ที่คุณมีอยู่แล้วในช่วงบ่าย
Are you free at 7 tonight?
คุณว่างช่วง 1 ทุ่มไหม
Yes, but I’ll have to move some things around.
ว่างนะ แต่ฉันต้องปรับเปลี่ยนกำหนดการนิดหน่อย
วลีอื่น ๆ ที่ใช้บ่อยเมื่อ เลื่อนนัด หรือปรับเปลี่ยนกำหนดการ
Work
เช่นเดียวกับคำว่า “make” และ “do” คำว่า “work” เองก็เป็นกริยาที่มีประโยชน์ในหลาย ๆ สถานการณ์
ในกรณีของการปรับเปลี่ยนกำหนดการ หากวันหรือเวลานั้น “work” หมายความว่ากำหนดการนั้นเป็นกำหนดการที่สะดวก
- How about Tuesday at 6 p.m.? Does that work?
ถ้าเลื่อนเป็นวันอังคารตอน 6 โมงเย็นจะสะดวกไหม - If that isn't a good time, please let me know what would work for you.
ถ้าเวลานั้นไม่สะดวก ช่วยแจ้งได้ไหมว่าคุณสะดวกเวลาใด
Tight
เมื่อพูดถึงกำหนดการและการนัดประชุมต่าง ๆ คำคุณศัพท์ “tight” จะมีความหมายว่า “ยุ่งมาก”
ให้คุณลองจินตนาการถึงปฏิทินที่ทุก ๆ วันมีการบันทึกกำหนดการกิจกรรมต่าง ๆ ไว้แน่นเกือบตลอดทั้งวัน กำหนดการที่แน่นเอี๊ยดนี้ก็เหมือนกับเสื้อผ้าแน่น ๆ ที่ทำให้คุณเคลื่อนไหวได้ลำบาก
- She always has a tight schedule. We only have time to meet on the weekends.
เธอมักจะมีกำหนดการแน่นเอี๊ยดอยู่ตลอด เราจึงมีเวลาเจอกันแค่ช่วงสุดสัปดาห์เท่านั้น - His schedule is usually pretty tight around the end of the year.
เขามักจะมีกำหนดการค่อนข้างแน่นในช่วงปลายปี
Fit (someone/something) in
วลีนี้ หมายถึง การแทรกกำหนดการหนึ่ง ๆ เข้าในช่วงเวลาที่ว่างอยู่
บางครั้งการกำหนดเวลาประชุมใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็น ถ้าหากเราพอมีเวลาว่างระหว่างกิจกรรมต่าง ๆ เราก็พอจะแทรกการประชุมนั้นเข้าไป หรือ “fit it into” กำหนดการเดิมได้
เราสามารถใช้คำว่า “fit” ร่วมกับบุคคลหรือกิจกรรมนั้น ๆ ที่เรากำลังพูดถึงอยู่ได้
- Mr. Saito is busy in the afternoon, but he can fit you in before his 5 o'clock appointment.
ช่วงบ่ายนี้คุณไซโตะค่อนข้างยุ่ง แต่เขาสามารถปลีกตัวมาคุยกับคุณได้ก่อนถึงนัดหมายช่วง 5 โมง - I wish I could fit lunch in with you today, but I'm just too busy!
ฉันหวังว่าวันนี้ฉันจะปลีกตัวไปรับประทานอาหารกลางวันกับคุณได้ แต่ฉันยุ่งมากเลย
แต่ถ้าอยากแสดงออกให้ชัดเจนกว่านี้ว่าเวลาว่างที่พอจะแทรกนัดได้นั้นสั้นมาก ๆ ก็แนะนำให้ใช้คำว่า “squeeze in”
- I'm sorry for the short notice, but can you squeeze in a quick conference call before you leave?
ต้องขอโทษด้วยที่แจ้งกะทันหัน แต่คุณพอจะแบ่งเวลามาประชุมทางโทรศัพท์สั้น ๆ ก่อนที่จะ
ออกไปได้ไหม
Rain check
สำนวน “rain check” หรือ “ไว้คราวหน้า” มีที่มาจากการยกเลิกกิจกรรมกลางแจ้งเนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี โดยผู้ที่ซื้อตั๋วจะได้รับ “rain check” ซึ่งเป็นหางตั๋วที่สามารถใช้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งต่อไปได้
การบอกว่า “Can I have a rain check?” นั้นไม่ได้หมายถึงการเลื่อนกำหนดการเสียทีเดียว เพราะการเลื่อนกำหนดการ หรือ “reshedule” เป็นการเลือกวันหรือเวลานัดหมายใหม่ แต่ “rain check” นั้นเป็นการผัดกำหนดการนั้นออกไปก่อนโดยไม่ได้บอกเวลาแน่ชัด
หากคุณไม่มั่นใจว่าคุณจะว่างรับนัดอีกนัดหนึ่งได้ไหม คุณก็สามารถใช้คำว่า “rain check” ได้
วลีนี้มีความเป็นกันเอง สบาย ๆ กว่าวลีอื่น ๆ ที่ได้กล่าวถึงไปข้างต้นในบทความนี้ ดังนั้นจึงเหมาะใช้กับเพื่อน ๆ ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการมากกว่า
- It looks like I will be pretty busy for a while. Can I get a rain check? Maybe we can meet next week.
ฉันน่าจะยุ่งไปอีกสักพักเลย ขอผัดออกไปก่อนได้ไหม เราน่าจะเจอกันได้สัปดาห์หน้าเลย - Thank you for inviting me, but unfortunately I can't go tonight. But I'll take a rain check!
ขอบคุณที่เชิญ แต่น่าเสียดายที่คืนนี้ฉันไปไม่ได้ ไว้โอกาสหน้านะ
สรุป
เรื่องเซอร์ไพรส์และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกะทันหันเป็นเรื่องปกติของชีวิต ดังนั้นอย่าได้รู้สึกแย่ไปถ้าคุณต้องเลื่อนนัด หากจำเป็นจริง ๆ สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงแค่ขออภัย อธิบายอย่างสุภาพ และเสนอวันหรือเวลานัดใหม่
หวังว่าวลีและตัวอย่างการใช้งานที่ Engoo ยกขึ้นมาแนะนำในวันนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน
ในสัปดาห์หน้าเราจะยกเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรมาให้คุณได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ทาง Engoo Blog