Engoo บล็อก ภาษาอังกฤษวัยทำงาน

พูดภาษาอังกฤษอย่างไรให้ซอฟต์ลง เพื่อ บรรยากาศ ที่ดีในการทำงาน

พูดภาษาอังกฤษอย่างไรให้ซอฟต์ลง เพื่อ บรรยากาศ ที่ดีในการทำงาน

ในสภาพแวดล้อมของการทำงาน การสร้างและรักษา บรรยากาศ รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ที่เราร่วมงานด้วยนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ดังนั้น การเลือกใช้คำพูดที่เหมาะสมจึงเป็นทักษะที่จะบกพร่องไปไม่ได้ 

วันนี้ Engoo จะมาแนะนำตัวอย่างการเกลื่อนคำ (Euphemisms) ซึ่งเป็นการเลือกใช้คำที่ช่วยลดทอนความรุนแรงให้สารของผู้พูดมีความนุ่มนวลและสุภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจระหว่างคู่สื่อสาร ซึ่งเหมาะกับการนำมาปรับใช้ในบริบทของการทำงานเป็นอย่างยิ่ง

Long >> Thorough / In-depth

หากเราบอกว่าการประชุมหรือการนำเสนองานต่าง ๆ นั้น long (ยาว) ซึ่งมีความหมายแฝงว่า น่าเบื่อหน่าย อาจทำให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกเชิงลบหรือไม่พอใจได้ ดังนั้น เราจึงควรเลือกใช้คำที่ให้ความหมายเชิงบวกอย่าง thorough (ละเอียด) หรือ in-depth (ลึกซึ้ง) ในการสื่อสาร เพื่อให้ข้อความของเราสุภาพ และคงไว้ซึ่ง บรรยากาศ ที่ดีในการทำงาน 

ตัวอย่าง

  • Scott's meeting was certainly thorough; he covered every detail.
    การประชุมของสก็อตต์มีความละเอียดอย่างมาก และเขาก็ได้กล่าวถึงรายละเอียดทุกประเด็น
  • The team presented a very in-depth analysis of the situation.
    ทีมงานนำเสนอบทวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วยความละเอียดอย่างยิ่ง

Hard >> Challenging

หากเราพูดออกมาตรง ๆ ว่างานนั้น hard (ยาก) อาจทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าเราอึดอัดใจกับงานชิ้นนั้น มองว่างานดังกล่าวทำให้เกิดความลำบาก ดังนั้น เมื่อต้องการสื่อสารว่างานนั้นหรือสิ่งต่าง ๆ มีความยาก ขอแนะนำปรับเปลี่ยนเป็นคำว่า challenging (ท้าทาย) ซึ่งจะช่วยให้เกิดความรู้สึกว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำให้งาน ๆ บรรลุผลสำเร็จ

ตัวอย่าง

  • The exam was really challenging, but I was able to pass it with help from my tutor!
    การสอบนี้ท้าทายมาก แต่ความช่วยเหลือจากติวเตอร์ทำให้ฉันผ่านมันมาได้

Problem >> Issue / Setback / Challenge

ปัญหา หรือ problem สามารถเกิดขึ้นได้เสมอในการทำงาน และเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่พูดถึงไม่ได้ ดังนั้น เพื่อลดความรู้สึกหนักใจและสร้างมุมมองเชิงบวกในการรับมือ/แก้ไขปัญหา ผู้ใช้ภาษาอังกฤษจำนวนมากจึงเลือกที่กล่าวถึงปัญหาด้วยคำว่า 

  • issue
    (หมายถึงปัญหาเช่นกัน แต่ให้ความรู้สึกว่าเป็นปัญหาที่ไม่ได้หนักหนาเท่า “problem”)
  • setback
    (หมายถึงสิ่งที่เข้ามากีดขวางให้การทำงานสะดุด ล่าช้า หรือดำเนินการได้ยากกว่าปกติ)
  • challenge
    (หมายถึง ความท้าทาย ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ให้ความรู้สึกบวกมากที่สุด แต่บางครั้งก็อาจทำให้ผู้รับสารประเมินความรุนแรงเหตุการณ์ต่ำกว่าความเป็นจริง จนเกิดความผิดพลาดในการดำเนินงานได้ เพราะฉะนั้น การเลือกใช้คำเหล่านี้ควรทำอย่างระมัดระวัง)

ตัวอย่าง

  • Our team is dealing with several issues on this project.
    ทีมของเรากำลังรับมือกับปัญหาจำนวนหนึ่งที่เกิดขึ้นในโปรเจ็กต์นี้
  • We have to postpone our delivery date due to unforeseen setbacks.
    เราต้องเลื่อนวันส่งมอบสินค้าออกไปเนื่องจากเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด
  • Challenges with our supply chain will affect our ability to deliver on time.
    ความท้าทายที่เกิดขึ้นกับห่วงโซ่อุปทานของเราอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการส่งมอบสินค้าตามกำหนดเวลา

Worried >> Concerned

เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในการทำงาน คนส่วนใหญ่มักจะไม่อยากเอ่ยปากว่าตนเองเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องสื่อสารกับคนหมู่มาก

ในกรณีนี้ คำว่า worried (กังวล/เครียด) มักจะถูกแทนที่ด้วย concerned (เป็นห่วง) ซึ่งสื่อความหมายแฝงว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหานั้นอย่างใจเย็น รอบคอบ และจริงจัง

ตัวอย่าง

  • These unexpected developments are cause for concern.
    สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเหล่านี้น่าเป็นห่วง
  • Management is concerned about the lack of progress on this project.
    ผู้บริหารเป็นห่วงเกี่ยวกับความคืบหน้าที่ล่าช้าของโปรเจ็กต์นี้

Fire >> Lay off / Let go

การถูกให้ออกจากงานเป็นเรื่องที่ร้ายแรงและน่าประหวั่นพรั่นพรึงสำหรับคนทำงานจำนวนมาก แม้แต่บริษัทต่าง ๆ เองก็ไม่อยากเอ่ยคำว่า “ไล่ออก” ออกมาตรง ๆ เช่นกัน

เมื่อพูดถึงเหตุการณ์เช่นนี้ ผู้ใช้ภาษาอังกฤษมักจะหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า fire ซึ่งแปลว่า ไล่ออก และหันไปใช้คำว่า lay off (เลิกจ้าง) หรือ let go (ปลดออก) แทน

  • Due to financial difficulties, we unfortunately had to lay off a small portion of our workforce.
    เนื่องจากปัญหาด้านการเงิน เราจึงจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วน
  • Many employees are worried they will be let go in the coming months.
    พนักงานจำนวนมากเป็นกังวลว่าตนเองจะถูกปลดออกจากงานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

Unemployed >> Out of work / Between jobs

นอกจากการถูกไล่ออกแล้ว สถานะไม่พึงประสงค์อีกอย่างของวัยทำงานคือ การตกงาน หรือ unemployed 

คำว่า unemployed นี้แฝงมุมมองที่มีต่อบุคคลตกงานว่าขี้เกียจและขาดความพยายาม จึงให้ความหมายเชิงลบ และควรเลี่ยงไปใช้คำอื่น 

ตัวเลือกหนึ่งในการกล่าวถึงบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในสถานะการจ้างงาน คือ out of work หรือ ว่างงาน ซึ่งเป็นคำที่ให้ความรู้สึกเป็นกลางกว่า

ตัวอย่าง

  • He's been out of work for about four months now.
    ปัจจุบันเขาว่างงานมาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว

ตัวเลือกต่อมาที่ให้ความหมายในเชิงบวกยิ่งกว่าตัวเลือกก่อนหน้าคือ between jobs หรือ อยู่ระหว่างหางาน ซึ่งสื่อว่าถึงแม้บุคคลนั้น ๆ จะไม่ได้ทำงานอยู่ ณ ขณะนี้ แต่เขาก็กำลังพยายามขวนขวายหางานใหม่ ไม่ได้นั่งอยู่เฉย ๆ

ตัวอย่าง

  • I'm in between jobs right now, so I'm doing a lot of networking to find new opportunities.
    ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ระหว่างหางาน ดังนั้น ฉันจึงออกไปพบปะทำความรู้จักคนจำนวนมากเพื่อมองหาโอกาสใหม่ ๆ

Quit >> Resign / Step down

แน่นอนว่าคนที่โบกลามือลาจากตำแหน่งงานและบริษัทเดิมด้วยความสมัครใจก็มีอยู่จริงเช่นกัน 

เมื่อพูดถึง การลาออก เป็นภาษาอังกฤษ คำว่า quit อาจฟังดูตรงและรุนแรงจนเกินไป ดังนั้น เพื่อให้ฟังดูสุภาพยิ่งขึ้น เราควรเลือกใช้คำว่า resign แทน

ตัวอย่าง

  • After serving as a board member for 30 years, Johnson decided to resign in order to spend more time with his family.
    หลังจากทำหน้าที่เป็นกรรมการบริหารมากว่า 30 ปี จอห์นสันได้ตัดสินใจลาออก เพื่อที่จะได้ใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น
  • The leader was pressured to resign when the scandal became a big news story.
    หัวหน้างานคนดังกล่าวถูกกดดันให้ลาออก หลังจากเรื่องอื้อฉาวกลายเป็นข่าวใหญ่โต

step down เป็นคำที่สื่อถึงการออกจากงานหรือตำแหน่งเพราะแรงกดดันหรือการถูกบีบโดยบุคคลอื่น ๆ 

ตัวอย่าง

  • The public called for the politician to step down due to his controversial remarks.
    สาธารณชนเรียกร้องให้นักการเมืองออกจากตำแหน่ง เนื่องจากคำพูดที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงของเขา

Pay >> Salary / Compensation

เรื่องเงินถือเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวในหลาย ๆ บริบท แม้แต่ในโลกของการทำงานก็เช่นกัน โดยบ่อยครั้ง ผู้ใช้ภาษาอังกฤษมักจะเลี่ยงใช้คำว่า pay ในการพูดถึงเงินค่าจ้างที่ได้จากทำงาน และหันไปใช้คำว่า salary (เงินเดือน) หรือ compensation (ค่าตอบแทน) แทน

  • It is the company's policy for employees to not discuss details of their salary with one another.
    บริษัทมีนโยบายห้ามไม่ให้พนักงานบอกรายละเอียดเงินเดือนของตนเองให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นทราบ
  • What kind of compensation can I expect if I accept this position with your organization?
    รบกวนสอบถามค่าตอบแทนในกรณีที่ฉันตอบรับงานตำแหน่งนี้ในองค์กรของคุณได้ไหม

We are prepared to offer you a very generous compensation package.
เราพร้อมที่จะเสนอค่าตอบแทนและสวัสดิการที่สมเหตุสมผลและน่าพึงพอใจเป็นอย่างยิ่งให้แก่คุณ

สรุป

ลักษณะการเกลื่อนคำที่เราได้ยกตัวอย่างไปในบทความนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในการสนทนาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และมีความจำเป็นอย่างยิ่งในบริบทของการทำงาน และเพื่อให้ บรรยากาศ การสนทนาในที่ทำงานของคุณราบรื่น คุณจึงควรทำความคุ้นเคยกับการเลือกใช้คำศัพท์ที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาจากสื่อต่าง ๆ รวมถึงการฝึกฝนใช้งานกับคุณครูที่สามารถช่วยแนะนำคุณได้ว่าคำไหนเหมาะสมกับสถานการณ์ใด 

หวังว่าบทความในสัปดาห์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน และในโอกาสหน้า ๆ เราจะมองหาหัวข้อการเรียนรู้ที่น่าสนใจและเหมาะสมกับการนำไปปรับใช้ในที่ทำงานมานำเสนออีกนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าทาง Engoo Blog ค่ะ