Tense สำหรับใช้พูดถึงประสบการณ์ชีวิต
“มีด้วยเหรอ Tense ที่พูดถึงประสบการณ์ชีวิต?” หลายคนอาจตั้งคำถามนี้ คำตอบก็คือ มีสิ! แถมเป็น Tense ที่ไม่ยากและเราพบเห็นกันบ่อยๆ ด้วย ซึ่ง Tense ดังกล่าวก็คือ Present Perfect นั่นเอง!
ทำไมถึงใช้บอกประสบการณ์ชีวิต เพราะ Tense นี้เมื่อใช้ จะมีความหมายว่าเรา ‘เคย’ (มีประสบการณ์) ทำสิ่งโน้นสิ่งนี้ เช่น
I have run the Bangkok Marathon. ฉันเคยวิ่งงานกรุงเทพมาราธอน
Sunee has been to Italy. สุนีเคยไปอิตาลี
ดังนั้นหากเราอยากจะบอกว่าเราเคยมีประสบการณ์ทำอะไรก็ตาม ลองใช้ Pesent Perfect ดู
โดย Tense นี้มีรูปแบบคือ has/have + past participle หรือกริยาช่อง 3
ลองมาดูตัวอย่างกัน
สมมติเราอยากบอกเพื่อนว่า เราเคยไปเที่ยวประเทศลาว ก็ใช้ว่า I have been to Lao. โดยข้อควรจำคือ การไป ‘เยี่ยมเยือน’ ที่ไหนจะมีความพิเศษตรงนี้ เราไม่นิยมใช้ gone (ช่องที่ 3 ของ go) แต่จะใช้ been (ช่องที่ 3 ของ be) แทน
อย่างไรก็ตาม Pesent Perfect ไม่ได้ใช้เพื่อบอกถึงประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังใช้ในกรณีที่เราทำบางสิ่งในอดีตต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
I have walked two miles already. ฉันเดินมาสองไมล์แล้ว (และยังคงเดินอยู่)
The critics have praised the film Saving Private Ryan since it came out. นักวิจารณ์ชื่นชมหนังเรื่อง Saving Private Ryan ตั้งแต่ได้ออกฉาย (ปัจจุบันพวกเขาก็ยังชมอยู่)
แล้วอย่างนี้ Present Perfect จะแตกต่างจาก Past Simple ยังไงล่ะ?
คำตอบก็คือ Past Simple เป็นการกระทำที่จบอย่างสมบูรณ์ในอดีต ส่วน Present Perfect เป็นการกระทำตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยพิจารณาจากคำบอกเวลาเป็นหลักคือ
คำบอกเวลาที่ระบุชัดเจนให้ใช้ Past Simple
I studied all night/yesterday/on Wednesday. ฉันท่องหนังสือตลอดคืน/เมื่อวาน/วันพุธ
คำบอกเวลาที่สื่อถึงความต่อเนื่องจากอดีตให้ใช้ Pesent Perfect
I have studied up to now/lately/already. ฉันท่องหนังสือจนถึงตอนนี้/จนถึงดึก/แล้ว
ส่วนคำบอกเวลา เช่น today, this month หรือ for an hour สามารถใช้ได้ทั้ง 2 Tense เลยค่ะ
I worked/have worked hard today. ฉันทำงานหนักวันนี้
พอจะเข้าใจ Present Perfect กันบ้างหรือยังคะ คราวหน้าลองใช้ Tense นี้บอกเล่าถึงประสบการณ์ หรือจะใช้เพื่อบอกการกระทำตั้งแต่อดีตต่อเนื่องมาปัจจุบันก็ได้ทั้งคู่เลยค่ะ
ขอให้สนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับอิงกู (engoo) นะคะ ^^